วันอังคารที่ 9 เมษายน 2567
อาร์เซน่อล – บาเยิร์น มิวนิค (02:00 น.)
ส่วนทางด้าน อาร์เซน่อล ขุมกำลังเกือบเต็มสูบโดยที่ยังขาด ยูร์เรียน ทิมเบอร์ ไปเพียงแค่รายเดียวเท่านั้น
พวกเขาต้องระวังเพราะ เดแคลน ไรซ์ กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ สองนักเตะสำคัญมีเหลืองติดตัวโดนอีกใบก็จะถูกแบนในเลกสอง
บาเยิร์น เดินทางไปเยือนอังกฤษโดยมีข่าวดีเพราะ มานูเอล นอยเออร์ เป็นส่วนหนึ่งของทีมและน่าจะได้กลับมาเฝ้าเสาถ้าไม่มีปัญหาเพิ่ม
นอกเหนือจากนั้น เลรอย ซาเน่, คิงสลี่ย์ โคมัน และ อเล็กซานดาร์ พาฟโลวิช ที่พลาดเกมเมื่อสุดสัปดาห์ไปก็เดินทางไปพร้อมกับทีมเช่นกัน
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– หนสุดท้ายที่ทั้งสองทีมพบกันคือเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาล 2016/17 โดยที่ บาเยิร์น เป็นฝ่ายเอาชนะได้ทั้งที่มิวนิคและลอนดอนด้วยสกอร์รวม 5-1
– อาร์เซน่อล เอาชนะได้ 11 จาก 14 นัดหลังสุดที่เล่นเกมเหย้าในยุโรป โดยแพ้เพียงแค่หนเดียวเท่านั้น
– บาเยิร์น เองพบกับความพ่ายแพ้มา 3 จาก 9 เกมหลังสุดที่เดินทางมาเยือนสโมสรในอังกฤษ (ชนะ 4 เสมอ 2)
เรอัล มาดริด – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (02:00 น.)
มาดริด จะมี เอแดร์ มิลิเตา เป็นส่วนหนึ่งของทีมสำหรับเกมนี้แต่ไม่น่าจะยังฟิตเพียงพอสำหรับการเป็นตัวจริง เลยต้องรอดูว่า นาโช่ หรือ ออเรลิยอง ชูอาเมนี่ จะถูกส่งลงมาคุมแนวรับ
พวกเขายังต้องระวังเพราะนักเตะ 4 รายมีใบเหลืองติดตัวเสี่ยงต่อการโดนแบนในนัดสองซึ่งประกอบด้วย วินิซิอุส จูเนียร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า และ ชูอาเมนี่
ทางด้าน แมนฯ ซิตี้ ยังคงไม่มี ไคล์ วอล์คเกอร์ เป็นส่วนหนึ่งของนักเตะที่เดินทางไปเยือนแดนกระทิงเช่นเดียวกับ นาธาน อาเก้
อย่างไรก็ตาม จอห์น สโตนส์ ฟิตเพียงพอสำหรับการร่วมเดินทางและ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ก็ถูกหนีบไปด้วยแม้โดนเปลี่ยนตัวออกตอนพักครึ่งเกมเมื่อสุดสัปดาห์
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ทั้งสองทีมพบกันเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกันโดยซีซั่นก่อน แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายเอาชนะในรอบรองชนะเลิศ ส่วนในฤดูกาล 2021/22 ก็พบในรอบเดียวกันแต่เป็น มาดริด คัมแบ็คจากความพ่ายแพ้นัดแรกกลับมาเข้ารอบ
– มาดริด ผ่านการคว้าชัยชนะมา 17 จาก 25 นัดหลังสุดสำหรับการเล่นเกมเหย้าในยุโรป (เสมอ 4 แพ้ 4)
– ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ไม่แพ้ในเกมยุโรปมาเป็นเวลา 22 เกมแล้ว ซึ่งก็นับตั้งแต่ที่พวกเขาพ่ายให้ มาดริด ในเลกสองของรอบรองชนะเลิศฤดูกาล 2021/22