เกมคู่ระหว่าง เฟเนร์บาห์เช่ และ อันเดอร์เลทช์ ศึก ยูโรปา ลีก เลกสอง จำต้องถูกหยุดการแข่งขันไปร่วมหลายนาทีหลังมีเหตุทะเลาะวิวาทบนอัฒจันทร์ เมื่อคืนววันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ลูกทีมของโชเซ่ มูรินโญ่ขึ้นนำ 3-0 หลังจากเกมเลกแรกที่ตุรกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และทุกอย่างก็เริ่มต้นได้อย่างสมบูรณ์แบบในเกมที่สองเมื่อ ยูเซฟ เอ็น-เนซีรี ทำประตูได้ในนาทีที่ 4
อย่างไรก็ตาม หลังจากทำประตูได้ไม่นาน เกมก็ถูกระงับลงชั่วคราวจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในตอนแรกยังไม่ชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกมต้องหยุดลง ขณะที่จากการรายงานสดของ
TNT Sports
เกี่ยวกับการปะทะกันครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาด้านความปลอดภัยในสนาม
ทั้งสองทีมถูกเชิญกลับไปที่ห้องแต่งตัว แม้ว่าแฟนบอลที่สนามกีฬา ล็อตโต้ พาร์ค ของ อันเดอร์เลทช์ จะยังคงอยู่ในที่นั่งของพวกเขา
ในเวลาต่อมามีข่าวว่าการแข่งขันถูกระงับหลังจากเกิดการทะเลาะวิวาทบนอัฒจันทร์ โดยประกาศดีเลย์เกมออกไป 15 นาที
ขณะที่คลิปที่ถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นในสนามของทั้งสองทีม
นักเตะของทั้งสองทีมพยายามเข้าไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อพยายามคลี่คลายเหตุการณ์ ซึ่งรวมถึง เฟร็ด อดีตดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ไบรท์ โอซายี-ซามูเอล ปีกอดีตของ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส แต่บรรดานักอื่นๆ พยายามดึงพวกเขาออกจากเหตุการณ์
โอซายี-ซามูเอล เข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุด และดูเหมือนจะพยายามขอร้องเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เข้ามาแทรกแซง ก่อนที่ มิลาน สคริเนียร์ จะลากเขาออกจากบริเวณนั้น
จากนั้น ตำรวจปราบจลาจลก็รีบรุดเข้าไปในอัฒจันทร์เพื่อจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ทำทุกอย่างที่ทำได้หลังจากที่มีการแสดงคำเตือนบนจอของสนามเพื่อเรียกร้องให้แฟนบอลกลับคืนสู่ความสงบ
ซานโดร ชาเรอร์ ผู้ตัดสินสั่งให้ผู้เล่นทั้งสองทีมไปตรงกลางสนาม เมื่อเขาตัดสินใจหยุดเกมและส่งพวกเขากลับเข้าไปในห้องแต่งตัว
โชคดีที่หลังจากล่าช้าไปประมาณ 15 นาที ผู้เล่นทั้งสองทีมสามารถกลับมาลงสนามได้และทำการแข่งขันต่อจนจบ