วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567
กลุ่ม ซี
อังกฤษ – สโลวีเนีย (02.00 น.)
อังกฤษ มี 4 คะแนนจาก 2 นัดแรก ยืนยันการเข้ารอบไปแล้ว ยังต้องการชัยชนะเพื่อทำอันดับให้ดีที่สุด ขณะที่ฝั่ง สโลวีเนีย มีลุ้นจบถึงแชมป์กลุ่มเช่นกันหากได้สามคะแนน และผลอีกคู่เป็นใจ
ลุค ชอว์ กลับมาฝึกซ้อม แต่ แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือยืนยันแบ็คซ้ายรายนี้ไม่พร้อมลงแข่ง ขณะที่สื่อแดนผู้ดีคาดว่า “สิงโตคำราม” จะเปลี่ยนแท็คติกเล็กน้อยให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ยืนกลางแทน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
สโลวีเนีย หัวหอกตัวเก่งอย่าง เบนจามิน เชสโก้ ถูกเปลี่ยนออกท้ายเกมนัดล่าสุด เนื่องจากปัญหากล้ามเนื้อ แต่กลับมาลงฝึกซ้อมได้ คาดว่าพร้อมลงตาข่ายให้ทีมของ มัทยาซ เค็ค
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ก่อนหน้านี้ สองชาติลงแข่งกันมาแล้ว 6 ครั้ง อังกฤษ ไม่เคยแพ้โดยคว้าชัย 5 และเสมอ 1 ส่วนทาง สโลวีเนีย ยังคงรอคอยชัยชนะครั้งแรกในศึก ยูโร รอบสุดท้าย
เดนมาร์ก – เซอร์เบีย (02:00 น.)
เดนมาร์ค มีข่าวดีได้ โธมัส เดลานี่ย์ มิดฟิลด์ไดนาโมหายป่วย พร้อมผนึกกำลังกับ คริสเตียน อีริคเซ่น, ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ก และ ราสมุส ฮอยลุนด์
เซอร์เบีย จมบ๊วยแต่โอกาสเข้ารอบยังเปิดกว้าง และนอกจาก ฟิลิป คอสติช ที่บาดเจ็บจนถอนตัวไปก่อนแล้ว ที่เหลือสภาพสมบูรณ์โดย ดราแกน สตอยโควิช เฮดโค้ชแย้มว่าจะมีการเปลี่ยนทีมหลายตำแหน่ง
กลุ่ม ดี
ฝรั่งเศส – โปแลนด์ (23:00 น.)
“ตราไก่” ยืนยันเข้ารอบ แต่ยังเหลือการเป็นแชมป์กลุ่ม โดย ดิดิเยร์ เดสช็องส์ กุนซือ “ตราไก่” เปิดเผยว่า คิลิยัน เอ็มบัปเป้ หอกกัปตันทีมต้องการลงสนาม แต่ไม่ยืนยันจะทำตามคำขอหรือไม่
หาก เอ็มบัปเป้ ได้โอกาส คาดว่า อองตวน กรีซมันน์ จะกลับไปทำเกมแดนกลาง และให้ ออเรลิยอง ชูอาเมนี่ หวนสู่ม้านั่งสำรอง หลังลงเกมล่าสุดเสมอ เนเธอร์แลนด์ 0-0
ทาง โปแลนด์ ตกรอบไปแล้วแต่คาดว่า มิชาล โปรเบียร์ซ เฮดโค้ชจะให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงผู้หายเจ็บลงตัวจริงนัดแรกของทัวร์นาเมนต์ แต่จะไม่มีกองหลังอย่าง บาร์ตอซ ซาลามอน เพราะปัญหาข้อเท้า
โปรเบียร์ซ สัมภาษณ์ก่อนแข่งยืนยันอีกว่า วอยเซียจ เชสนี่ นายด่านมือหนึ่งจะนั่งสำรองเปิดทางให้ ลูคัสซ์ สโกรุปกี้ หรือไม่ก็ มาร์ซิน บุลก้า ลงทิ้งทวน
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ตลอดประวัติศาสตร์สองชาติเจอกัน 17 ครั้ง ฝรั่งเศส ชนะ 9 เสมอ 5 แพ้ 3 โดยความปราชัยต่อ โปแลนด์ ในเกมทัวร์นาเมนต์ครั้งสุดท้าย ต้องย้อนไปถึงฟุตบอลโลก 1982
– ฝรั่งเศส ลุ้นบวกสถิติไร้พ่ายในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอล ยูโร เป็น 9 นัดโดยก่อนหน้านี้เสมอ 4 แพ้ 4
เนเธอร์แลนด์ – ออสเตรีย(23:00 น.)
“กังหันลมสีส้ม” จูงมือกับ ฝรั่งเศส เข้ารอบน็อคเอาท์ แต่ยังต้องทำแต้มเพื่อเป็นแชมป์กลุ่ม และนอกจาก โยชัว เซิร์คซี กองหน้าผู้มีอาการไข้ โรนัลด์ คูมัน ระบุทีมของเขาไม่มีปัญหาบาดเจ็บเพิ่มเติม
ฝั่ง ออสเตรีย ต้องการชัยชนะ เพื่อเข้ารอบแบบไม่ต้องลุ้นเป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด โดยทีมของ ราล์ฟ รังนิค จะไม่มี เกอร์น็อท เทราเนอร์ เซ็นเตอร์แบ็คซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บ และคาดว่า เควิน ดันโซ จะลงตัวจริงแทน
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยเจอกัน 19 คร้ัง เนเธอร์แลนด์ ชนะ 9 เสมอ 4 แพ้ 6 โดยความปราชัยต่อ โปแลนด์ ครั้งสุดท้ายต้องย้อนไปถึงปี 1990
– เนเธอร์แลนด์ ไม่แพ้ในรอบแบ่งกลุ่มทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์มา 11 นัดนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2014 และหากได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ พวกเขาจะเข้ารอบน็อคเอาท์ ยูโร เป็นครั้งที่ 8 จาก 9 ครั้งหลังสุด
