เห็นรูปเกมที่บุกไปเอาชนะเบรนท์ฟอร์ดขาดลอย 4-1 แล้วยิ่งเสียดายแทนที่ลิเวอร์พูลต้องเสียผู้เล่นตัวสำคัญไปถึง 2 คน
เคอร์ติส โจนส์และดิโอโก้ โชต้า เจ็บในเวลาห่างกันแค่ 10 นาทีในครึ่งแรก (นาที 34 และ 44)
เป็นการเสียหายครั้งใหญ่เมื่อมองจากรอบชิงคาราบาว คัพกับเชลซีกำลังรออยู่ในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้านี้แล้ว
ความเข้มข้นของเกมไม่ได้หนักป่าเถื่อนอะไรถึงขนาดต้องมีลงเปลแต่เป็นความโชคร้ายจากจังหวะเข้าบอลมากกว่า
แม้ผมจะรู้สึกว่าคริสเตียน นอร์กอร์ดที่วันนี้รับเหมา double kill ตั้งใจเหลือบมองโชต้าก่อนทิ้งตัวแบบกระโดดลงที่นอน “ซาติน” โดยไม่คิดจะแลนดิ้งด้วยการใช้ขาเพื่อผ่อนน้ำหนักอะไรเลยด้วยซ้ำ
เอาล่ะในเมื่อไม่มีหลักฐานใดๆและเราทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากตามดูอาการของทั้ง 2 คนซึ่งผมมองว่าโชต้าอาจถึงขั้นปิดเทอม (เสี่ยง ACL) ส่วนโจนส์ยังลงน้ำหนักได้ ลุ้นๆ
อีกจุดที่ทำให้สงสัยเพิ่มคือ JK เปลี่ยนตัวช่วงพักครึ่ง (กัคโปแทนนูนเญซ) ซึ่งผิดวิสัยที่บอสไม่ค่อยทำอะไรระหว่างพักครึ่ง แฟนบอลยิ่งกังวลว่า “หนูน” เจ็บอะไรเพิ่มอีกไหม
สำหรับรูปเกมวันนี้ “ผึ้งน้อย” ใช้วิธีเดิมๆที่เคยเล่นงาน “หงส์แดง” มาตลอดคือรับต่ำซื้อ “เกมรับ” และเล่นบอล direct เพื่อโจมตีพื้นที่ว่าง
แต่หมองูตายเพราะงูและวิกฤติกลับด้านเนื่องจาก 3 จาก 4 ลูกของ ลิเวอร์พูล ในวันนี้มาจากการเล่น ugly football วางยาวทิ้งวัดดวงที่ทำให้เด็กๆของโธมัส แฟร็งค์กลายเป็นฝ่ายชอกช้ำโดนซะเอง
เช่นลูกประเดิมเปิดซิง 1-0 เจ้าถิ่นกะจะบอมบ์ฟรีคิกเข้าเขตโทษลุ้นประตูแต่โดนทีมเยือนฉวยโอกาสจุดพลุสวนกลับมา (VvD) จนเป็นที่มาของลูกชิพเหนือๆของ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยิงสไตล์วินนิ่ง L1+สามเหลี่ยม
อะไรก็ตามแต่ลูกนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหากไม่มีความฉลาดของโชต้า อันนี้ผมมองว่าคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้ในจังหวะนี้ ไม่ผิดหวังที่ชอบเป็นการส่วนตัว เห็นแบบนี้ยิ่งเสียดายที่ไม่รู้จะกลับมาลงสนามได้อีกไหม
ที่เหลือก็เป็นลูก “ลูกหมี” สาดบอลยาวให้กัคโปโหม่งเช็ดก่อนเป็นซาลาห์สปีดฉกไปยิงและปิดท้ายโกเมซบอมบ์จนเราได้เห็นการเคลียร์บอล “ว่าว” แบบ school boy ของคอลลินส์และกัคโปเอาไปยิงง่ายๆ 4-1
รูปเกมโดยรวมวันนี้ไม่อะไรมาก จากที่ “ผึ้งน้อย” เล่นอุดตอนแรกกลายเป็นไม่มีทางเลือกดันสูงหลังลอย
Two way แลกหมัดวัดได้เสียว่าจะ 2-0 หรือ 1-1 ซึ่งสุดท้ายเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้ 2 ผู้เล่น world class ทั้ง โมและ AMA เสกประตูที่ทำให้ไหลๆทะลุถึง 4 ลูกในท้ายที่สุด
เป็นการปลดล็อก 3 แต้มที่บ้านเบรนท์ฟอร์ดหนแรกของคล็อปป์ก่อนอำลาพรีเมียร์ลีกได้งดงามจริงๆ
ครับเป็นชัยชนะสวยๆที่ได้มาทั้งทีแต่อารมณ์ไปไม่สุด เสีย 2 ผู้เล่นตัวหลักก่อนรอบชิงแต่เราสามารถหยิบจับสิ่งดีๆออกจากเกมนี้ชดเชยกันได้นะครับ
“อิยิปต์คิง” ซาลาห์ คัมแบ็คพร้อมประตูเรียกความมั่นใจและมีเกมกลางสัปดาห์กับลูตันให้เรียกความฟิตก่อนไปเวมบลีย์
เจ้าหนูแบร๊ดลีย์กลับมาหลังคุณพ่อเสียด้วยฟอร์มแจ่มแมวเหมือนเดิม ตัวจริงรอบชิงไม่หนีไปไหนรวมถึงกราเวนเบิร์กที่ลงสำรองเล่นดีกว่าที่ครั้งที่ผ่านมา
ต้นทุนสำหรับ 3 แต้มแพงก็จริงครับแต่ถ้ามี JK แฟน “หงส์” มั่นใจทุก line up ครับ…
สถิติ สถิติ สถิติ
2 ประตูของ โม ซาลาห์และโคดี้ กัคโปทำให้ลิเวอร์พูลเป็นเพียงทีมที่ 2 ในพรเมียร์ลีกที่ 2 ตัวสำรองลงมายิงและจ่ายในเกมเดียวกันหลังก่อนหน้านี้อาร์เซนอลเคยทำไว้ในเกมพบฟูแล่มเมื่อปี 2018 (โอบาเมยิงและแรมซีย์)
ตอนนี้ซาลาห์ยิงและจ่ายไปแล้ว 30 เกม มีเพียง เวย์น รูนีย์ (36), เธียร์รี่ อองรี (32) และอลัน เชียร์เรอร์ (31) ทำได้มากกว่า